ไม่มีใครให้คำตอบได้ ว่าใครจะเป็นศพสุดท้ายของอุบัติเหตุบนถนนที่พาดผ่านดอยแห่งนี้ มีคนบอกว่ามันถืออาถรรพ์ แต่บางคนบอกว่ามันคือความประมาท
กลางดึกคืนวันที่ 9 เมษายน 2561 ช่วงเวลาที่หมุนต่อเนื่องเคลื่อนผ่านก้าวสู่วันที่ 10 เมษายน ตามเข็มนาฬิกา เกิดอุบัติเหตุใหญ่ขึ้นอีกครั้ง บนถนนสาย ตาก-แม่สอด ท้องที่ ต.แม้ท้อ อ.เมือง จ.ตาก เมื่อรถทัวร์ขนแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 51 คน ของ บ.สุโขนศร จำกัด ได้ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ หลังเดินทางมาต่ออายุหนังสือเดินทาง เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ศพ ทั้งที่เป็นรถใหม่เพิ่งจดทะเบียนเมื่อปีที่ผ่านมา สำหรับขนแรงงานเมียนมาโดยเฉพาะ
แต่แน่นอน ... นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดความสูญเสียใหญ่แบบนี้ กับจุดที่ถูกเรียกว่า "ดอย 100 ศพ" ที่นี่คือดอยรวก ขุนเขาแห่งหนึ่งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติลานสาง โดยในอดีตนั้นเส้นทางสายนี้ใช้นโยบายให้รถวิ่งไป-มา แบบวันต่อวัน คือ ขาไป 1 วัน ขากลับ 1 วัน เพื่อไม่ให้รถสวนทางกัน จากความอันตรายของเส้นทางขณะนั้น ที่ยังไม่สะดวกเท่าไหร่หนัก จน พ.ศ. 2513 จอมพล ถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นชาวตาก ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อขยายเส้นทางเป็น 2 ช่องจราจร
ด้วยสภาพภูมิประเทศ ที่ตัดผ่านดอยต่างๆ เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวในระดับหนึ่ง และมักมีช่วงขึ้นและลงเขาที่ยาวนับกิโลเมตร ทำให้ถนนเส้นนี้จะมีจุดพักรถ เป็นระยะๆ รวมถึงช่องหยุดรถฉุกเฉิน สำหรับผู้ที่รถกำลังเบรกแตกในขาลงเขา แต่ผ่านระยะเวลาเกือบ 50 ปี เส้นทางดอยรวก หรือถนนสาย ตาก-แม่สอด ก็ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย โดยแต่ละปีจะมีอุบัติเหตุขึ้นหลายครั้ง ครั้งใหญ่ที่สุดเช่น
1. เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2556 รถทัวร์ขนแรงงานเมียนมาประสบอุบัติเหตุตกเหวจนเสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน
2. เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2557 รถทัวร์ของกลุ่มผู้สูงอายุ, กลุ่ม อสม. และพนักงานท้องถิ่น ทต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ตกเหวทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 ศพ
3. เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2557 รถบรรทุก 10 ล้อ เบรกแตกพุ่งชนรถโดยสาร มีผู้เสียชีวิต 14 ศพ
4. วันที่ 25 ตุลาคม 2558 รถพ่วงพุ่งชนกับรถกระบะจนทำให้รถกระบะร่วงตกเหว มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ
5. 12 มีนาคม 2559 รถตู้บรรทุกแรงงานเมียนมา พุ่งชนรถน้ำมัน มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ
6. 26 มีนาคม 2561 รถทัวร์ขนแรงงานเมียนมาพลิกคว่ำ บาดเจ็บ 35 ราย แต่ครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
7. คืนวันที่ 9 เมษายน 2561 รถทัวร์ขนแรงงานเมียนมาพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 6 ศพ สาหัสอีกจำนวนมาก
และผ่านมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ช่วงสายวันที 10 เมษายน 2561 เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์พุ่งชนรถตำรวจทางหลวง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ โดยห่างจากจุดเกิดเหตุเมือคืนวันที่ 9 เมษายน เพียง 50 เมตร
จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจจากประเทศเมียนมา เพื่อไปออกยัง สปป.ลาว หลังเกิดเหตุครั้งใหญ่เมื่อปี 2557 จนมีผู้เสียชีวิตรวมกันในเวลาเพียงเดือนเศษๆ 45 ศพ ถนนเส้นนี้จึงได้ถูกทุ่มงบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท ขยายช่องทางจราจร จาก 2 เลนส์ เป็น 4 เลนส์ เพือรองรับรถให้สัญจรได้มากขึ้น และลดการแซงโค้งทางยาว รวมทั้งระเบิดผิวถนนเดิมในจุดชันเพื่อลดวามชันลง เพิ่มช่องจราจรด้านขาขึ้นไต่ลาดชัน อีก 1 ช่องจราจร ผิวจราจรแบบ-แอสฟัลติก คอนกรีต ซึ่งเป็นส่วนผสมของหินย่อยกับยางแอสฟัลท์ เหมาะกับการสร้างผิวถนน หรือผิวรันเวย์สนามบินชั้นดี โดยผิวถนน 1 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร
โครงการนี้ปรับปรุงถนนเป็นระยะทางรวม 87 กิโลเมตร แบ่งเป็น 4 ช่วง แบ่งทิศทางจราจรด้วยแท่งปูนคอนกรีต ปัจจุบันแล้วเสร็จไป 3 ช่วง ขาดเพียงถนนช่วงดอยสน-ศาลพะวอ ระยะทาง 26 กิโลเมตร ที่จะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2562 ซึ่งในส่วนของดอยรวกนั้น อยู่ในพื้นที่โครงการ ช่วงที่ 3 ส่วนที่ 2 ได้มีการระเบิดหินภูเขาเพื่อขยายช่องทางเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559 ก่อนที่จะทยอยระเบิดทีละนิด เนื่องจากจากเว้นช่วงเวลาเคลียร์พื้นที่ให้รถวิ่งได้ในแต่ละวันด้วย ใช้เวลาระเบิด 9 เดือน จึงแล้วเสร็จ จากนั้นทำการปรับพื้นที่สร้างผิวถนน
หลังพื้นที่โครงการในจุดดอยรวกเสร็จสิ้นแล้วในต้นปีนี้ เป็นที่คาดหวังว่าจะยุติปัญหาอุบัติเหตุรุนแรงได้เสียที แต่สุดท้ายก็ยังเกิดขึ้นอีกจนได้ เป็นรอยแผลในใจของผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยากมองเห็นภาพ "ถนนปลอดภัย" จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเล็ก-ใหญ ในทุกเดือน ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่านี่คือ "อาถรรพ์" จนทางจังหวัดได้เคยจัดทำบุญครั้งใหญ่มาแล้ว แต่หลายฝ่ายก็ยังเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้แท้จริงแล้วคือ "ความประมาท"
ถนนบริเวณนี้ ตามกฎหมายแล้วรถทั่วไปต้องวิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสำหรับรถบรรทุกต้องความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถามตัวคุณเองดูว่าที่ผ่านมาเคยวิ่งผ่านด้วยความเร็วเท่าไหร่ ?
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น